คามูคามู (CAMU CAMU)

Last updated: 10 มิ.ย. 2565  |  3410 จำนวนผู้เข้าชม  | 

คามู คามู

คามูคามู พืชที่มีวิตามินซีสูงที่สุดในโลกมีผลการวิจัยทางการแพทย์ยืนยันว่าเป็นแหล่งของวิตาซีสูงสุดในบรรดาผลไม้ทั้งหมด โดยให้วิตามินซีสูงถึง 2,400-3,000 มิลลิกรัมต่อเนื้อผลสด 100 กรัมซึ่งมากกว่าส้มถึง 30 เท่า มีธาตุเหล็กเป็น 10 เท่า ไนอาซีน 3 เท่า ไรโบฟลาวิน (วิตามินบี 2) 2 เท่า และมีฟอสฟอรัสมากกว่าส้มถึง 50% อีกด้วย


นอกจากนี้ในผลคามู คามู ยังมีสารในกลุ่ม phenolic ถึง 30 ชนิด เช่น flavonoids, flavanols, flavan-3-ols, catechins, ellagic acid, gallic acids, anthocyanins, delphinidin 3-glucoside, cyanidin 3-glucoside, flavonols, rutin, flavanones, naringenin, tannins (gallo- และ ellagitannins)

นอกจากวิตามินซีสูงแล้ว ยังมากด้วยประโยชน์ในการดูแลร่างกายและผิวพรรณจึงถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางของยุโรปเป็นจำนวนมาก



เนื่องจากในผลคามูคามูนั้นประกอบไปด้วยให้กรดอะมิโน วิตามิน และเกลือแร่ที่จำเป็น เช่น โพแทสเซียม แคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส และมีสารในกลุ่มโพลีฟีนอล และแคโรทีนอยด์ จำพวก ลูทีน ซีแซนทีน เบต้า-แคโรทีนสูง แอนโธไซยานิน และแคโรทีนอยด์



ในด้านการดูแลสุขภาพพบว่าผลคามูคามู มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ และต้านการอักเสบ



ในด้านของผิวพรรณคามูคามู สามารถช่วยในการ สร้างเซลล์ผิวใหม่ผลิดผิวให้ขาวกระจางใส ยับยั้งอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของปัญหาผิวต่างๆรวมทั้งริ้วรอยแห่งวัย ผิวแห้งเสีย จุดด่างดำ ริ้วรอยหมองคล้ำ รวมไปจนถึงสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอและยังช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิวได้อีกด้วย 



ประโยชน์ของ คามู คามู ในแง่ของผิวพรรณ

  1. ลดริ้วรอยแห่งวัย
  2. สร้างเซลล์ผิวใหม่
  3. ปรับผิวให้ขาวกระจ่างใส
  4. ชะลอการเสื่อมสภาพของผิว
  5. ต้านการอักเสบของผิว
  6. ลดเลือนริ้วรอยต่างๆ
  7. ลดความหมองคล้ำของผิว
  8. ผลัดเซลล์ผิวแห้งเสีย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้